9/24/2011

Culpeper Virginia, USA.



28 April 2011
ระยะทางอีกไกล กว่าจะถึง Canada
ออกจากเมือง Waynesboro มาตามเส้นทางสายรอง
หลีกเส้นทางหลักที่คาดว่าทอร์นาโดผ่านเมื่อคืนนี้ ไม่อยากจอดรถนอนรอทางเปิด
จึงต้องลัดเลาะไปตามเมืองเล็กๆ
ก่อนจะถึงเส้นทางหลัก เราต้องเดินทางเส้นทางใหม่ตัดลัด ผ่านเมืองเล็กๆ
มีทิวทัศน์สวยงามมากทุ่งหญ้าเขียวขจี ตัดเสมอกัน ประชาชนส่วนมากคงทำไร่
มีบ้านอยู่บนเนินเขาย่อมๆ ห่างกันเป็นระยะๆ
แต่ก็มีย่านใจกลางเมือง ชื่อว่าเมือง Culpeper แต่ยังอยู่ในรัฐ Virginia



ฉันนั่งหลับบ้างตื่นบ้าง ไม่มีคำบรรยายอะไรมากมาย
ยามตื่นก็รีบเก็บภาพเอาไว้ หนทางไกลแสนไกล ไปเรื่อยๆ



เข้าไปในตัวเมือง Culpeper downtown ฉันได้เห็นแค่บางส่วน
แวะเข้าไปเดินเล่นใน Walmart ซื้อสินค้าบางอย่าง หิวด้วยละ
ซื้อขนมปัง


ภาพข้างล่างนี้ฉันไม่เห็นด้วยตัวเองหรอกนะ เอามาจากwebsite แต่เป็นบรรยากาศที่เมืองนี้



เหนื่อยนักแวะพักที่ริมทาง ถึงเส้นทางสายหลักและเปลี่ยนไปมา จำไม่ได้
ถึงตรงนี่้ไม่รู้ตรงไหน พักที่นี่ประมาณ 30 นาที


เดินทางบนเส้นทาง หมายเลข 476 เรื่อย ขึ้นลงบนภูเขา หลายลูก ลอดถ้ำใต้ภูเขา
เสียค่าผ่านทางหลายครั้ง และต้นไม้เริ่มไม่มีใบ ความเขียวชอุ่มเริ่มหายไป
อากาศก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเข้าเขตมีภูมิอากาศหนาวเย็น
ต้องเพิ่มปริมาณเสื้อผ้ากันหนาว รู้สึกเย็นจับใจ ใกล้เข้าสู่เขตCanada แล้วซิ
ได้รับคำตอบว่ายัง เหลืออีกไกล คงต้องพักกลางทางอีกครั้งบนเขาลูกนี้
ต้องหาที่พักสักแห่งหนึ่งให้ได้ก่อนจะดึกไปกว่านี้
ชั่วโมงต่อมา เริ่มมืดสนิท ที่จริงแล้ว เวลา 1 ทุ่ม ยังมีแสงรำไรบนเส้นทาง
แวะหาที่พักแต่หลงทางเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆ มีแต่ทุ่งนา ไม่มีโรงแรมพัก
ก็เลยกลับมาบนเส้นทางหลักอีกครั้ง เจอที่พักริมทาง เห็นแผนที่บริเวณที่พักระหว่างทาง
จึงได้โทรศัพท์ถามโรงแรม อีก 15 กิโลเมตรก็จะถึงที่พักที่ดีๆ มีน้ำร้อนๆ ให้อาบ
รู้สึกดีใจที่จะได้พัก ในที่สุดคืนนี้เราพักค้างคืนที่ white heaven
ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิท ในหุบเขา มีแต่ต้นไม้ที่ไม่มีใบเต็มไปหมด
ขอพักก่อนนะ แล้วจะเล่าต่ออีกวันพรุ่งนี้ เมื่องแสนสวย white heaven

Waynesboro Virginia, USA

27 April 2011
ตรวจสอบเส้นทางจาก google
และเราก็ออกเดินทางสายหน่อยเกือบ 5 เช้า เราไปเส้นทางสายใหม่
คนละเส้นทางกับขามาเพราะฉันอยากจะให้เห็นเมืองต่างๆ ที่แปลกแตกต่างกันไป
Centrally located in Virginia, easily accessible via Interstate, and providing access to the Blue Ridge Parkway and Skyline Drive, Waynesboro, VA is a charming destination as well as an ideal hub for day trips and excursions to surrounding areas.

เริ่มเดินทางกลับ Ottawa โดยผ่านเมือง Waynesboro มีทิวทัศน์สวยงาม
อากาศคล้ายภาคเหนือ ของ Thailand
แต่ใน website ของ Waynesboro เขียนไว้ว่า
It’s not like everywhere else. It’s Your Waynesboro.


หลับบ้าง ตื่นบ้าง จนกระทั่งเย็นจึงแวะพักที่โรงแรม Comfort Innที่เมือง Waynesboro
ตอนแรกว่าจะหา Campground พักแต่กลัวว่าฝนจะตก

เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไป dinner ที่ร้านอาหารจีน
มีข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวเพียบพร้อมในโรงแรม เจฟพยายามหาร้านอาหารจีน
สำหรับฉันเสมอ เพราะรับประทานได้มากกว่าอาหารจากประเทศอื่นๆ
ขับรถชมเมือง ไปด้วย เห็นบ้านเมืองเขาสะอาดดีมาก ต้นหญ้าตัดเรียบเสมอกัน
ไม่มีเศษขยะ ต้นไม้เขียวขจี





ย่านนี้ เป็น down town ของเมือง Watnesboro
แต่ฉันไม่ค่อยเห็นคนเดินไปมาเท่าไร เงียบๆ มันเป็นเวลาหลังเลิกงาน
คนส่วนมากจะอยู่บ้านตัวเอง นอกเมือง อีกทั้งตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว


ในที่สุดฉันก็เห็น ร้านอาหารจีน ชื่อNew Ming Garden 316 federal Street
บริการอาหารแบบ Buffe บุฟเฟ่ห์ บริการตัวเอง มีอาหารหลากหลาย
ตอนแรกเรานึกว่าเป็นร้านเล็กธรรมดา พอเข้าไปถึงเห็นว่าตกแต่งหรูหรามาก
เหมือนกับอยู่ในประเทศจีนเลยเชียว ค่าอาหารแบบ Buffet เพียงแค่ 25$
ปกติเรารับประทานอาหารจีนที่ Ottawa เราจ่ายครั้งละ 20$ ต่อคน
เห็นแล้วรู้สึกดีใจมาก อาหารญี่ปุ่นที่ฉันชอบก็มี อร่อยด้วย
อาหารก็อร่อย ฉันทานอาหารจนเต็มท้อง รู้สึกประทับใจในการค้างแรมที่เมืองนี้อย่างยิ่ง

dinner เสร็จแล้ว ก็แวะมาดูโชว์รูมรถคันเล็ก น่ารักราคาแพง
ชอบมาก สวยหรู อยากได้มาขับที่เมืองไทย เวลาไปโรงเรียน
ที่โรงเรียน มีรถเต่าคันเล็ก คุณครูขับมาทุกวัน





รถ Motor home คันนี้ จอดอยู่ข้างนอก show room
ยิ่งดูยิ่งสวยสง่า ไปไหน ไปด้วย ไปได้ทุกที่


แต่คนขับรถMotor home อยากได้รถคันเล็กไปขับเล่น เดินวนไปมา
ไม่ยอมห่าง พินิจพิเคราะห์เป็นเวลานาน


หญิงไทย คนนี้ ก็อยากได้เอามาขับที่ Roi et , Thailand

หลังจากนั้นพักผ่อน ตื่นเช้าเตรียมเดินทางต่อ
เติมน้ำมันให้เต็มถัง จะได้ไปถึงไหนถึงกัน แล้วเราก็ได้ข่าวทอร์นาโด
ถล่มเมือง เมื่อคืนนี้ ถนนบางสายถูกปิด



เช้าเราเตรียมตัวเดินทาง กำลังเติมgas ที่ปั๊ม มีชายคนหนึ่งเดินมาคุยกับคุณเจฟว่าเมื่อคืนนี้เกิดพายุหมุนโทนาโดขึ้นที่ Virginia ฉันไม่รู้ว่าส่วนไหน ถนนปิดบางส่วนให้ดูเส้นทางดีๆ ว่าเส้นทางไหนไปได้ บริเวณที่เกิดพายุหมุน บ้านเรือนพังทลาย มีคนตาย 202 คน
เราเปลี่ยนเส้นทาง ตอนแรกว่าจะไปตามเส้นทางสายเล็ก ผ่านเมืองเล็ก ไม่ใช่เส้นทางหลัก บนซุปเปอร์ไฮเวย์ พอได้ยินข่าว คุณเจฟบอกว่า เราไปเส้นทางหลัก ซุบเปอร์ไฮเวย์ดีกว่า
เพราะเส้นทางเล็กอาจจะถูกปิดบางเส้นทางที่เราไม่รู้ล่วงหน้า ที่จริงแล้ว ทอร์นาโดมันผ่านไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก่อนเราจะมาถึงที่นี่และรู้ข่าว

ข่าวอ่านจาก google
29เม.ย.2554 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เผชิญกับพายุทอร์นาโดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 37 ปี เมื่อวันพุธทำให้จนถึงขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตใน 6 รัฐเพิ่มเป็นมากกว่า 300 รายแล้ว โดยนับเป็นเหตุการณ์ที่พายุทอร์นาโดพัดถล่มในวันเดียวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่พายุทอร์นาโดที่คร่าชีวิตประชาชน 310 รายเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2517
ทั้งนี้ รัฐอลาบาเป็นรัฐที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดมีผู้เสียชีวิตมากถึง 194 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตอีกมากมายในรัฐมิสซิสซิปปี้ รัฐเทนเนสซี รัฐจอร์เจีย รัฐเวอร์จิเนีย และรัฐเคนตั๊กกี้ จนถึงปัจจุบันมีการประกาศภาวะฉุกเฉินใน 7 รัฐแล้วเพื่อให้สามารถระดมความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น ยังมีลมกระโชกแรงและพายุลูกเห็บตกใน 21 รัฐตั้งแต่นิวยอร์กจนถึงอาร์คันซอ
ด้านศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐ รายงานว่า มีพายุทอร์นาโดพัดถล่มในหลายรัฐรวมเกือบ300 ลูกนับตั้งแต่พายุแผ่ปกคลุมเมื่อวันศุกร์ และเฉพาะเมื่อวันพุธมีทอร์นาโดมากกว่า 150 ลูก

9/16/2011

ท่องเที่ยว Canada April 2011

 flight to my dream April 2011

เวลา 4 โมงเย็นจึงไปสนามบินสุวรรณภูมิ

ของฝากที่จัดเตรียมไว้ ไม่ได้ติดตัวมาด้วยสักซิ้น น้ำหนักมันเกิน ต้องเอาออก
เสียดายจังเลย อุตส่าห์หาเตรียมไว้ สองทุ่มฉันก็ผ่านด่านตรวจคนขาออก
เข้าไปรอที่ Gate เจอผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังจะเดินทางไปพบกับสามีที่ London
เธอเป็นคนเพชรบูรณ์ รู้จักกับสามีทาง net คงมีคนจัดทำการติดต่อให้
ขอให้เธอประสบผลสำเร็จตามใจปรารถณา
Flight ของฉัน Bangkok to Bombai เวลา 8.45 pm. ถึง 11 .40 pm.
ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 15 นาที แล้วพักอยู่ที่ สนามบิน Bombai 2 ชั่วโมง

ฉันมาถึงสนามบิน london heathrow 6.45 am. เช้าตรู่ใน London


เดินไปตามทาง terminal 1,2,3,4 แจ้งว่าจะเดินทางต่อไป canada เจ้าหน้าที่ก็ชี้ให้ไปรอขึ้นรถ
ที่จะไปส่งผู้โดยสารที่ต่อเครื่อง ที่อาคารขาออก ตรวจสิ่งของในกระเป๋า และเดินผ่านเครื่อง
แสกน กระเป๋าไม่ผ่านต้องได้ตรวจสอบอีกครั้ง และแล้ว ยาสีฟัน กับ ครีมทาผิวก็ถูกทิ้งลงถังขยะไป
เขาบอกว่าเกิน 100 กรัม

ที่ board time ยังไม่ได้บอกเวลาว่าจะให้ ผู้โดยสารที่จะไปCanada ไปรอที่ Gate ไหน
เจ้าหน้าที่ air Canada ที่ counter บอกว่า ให้พักผ่อน รับประทานอาหารและ shopping
รอเวลาก่อน แล้ว ให้มาดูเวลาที่ board time .ในช่วงเที่ยง


ฉันเดินไปสั่ง hot Chocolate กับชี้ไปที่ขนมปัง 1 ชิ้น ที่ STARBUCKS COFFICE
จ่ายเงินเป็น เงิน US ไม่รู้ราคาเท่าไร ได้เงินทอนเป็นเงินเหรียญปอนด์
เก็บไว้ก่อนค่อยเรียนรู้ทีหลัง มีอะไรตีองเรียนรู้เยอะเลย มานั่งกิน ขนม
และดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ แล้วทดสอบ WIFI เข้าได้ แต่ต้องเสียเงิน
ถึงจะเล่น net ได้ ที่บอกว่า ฟรี ก็ Connect ไม่ได้

ฉันก็เริ่มบันทึกการท่องเที่ยว Canada ครั้งที่ 3 ด้วย เครื่อง net book
สีชมภูหวานแหว๋ว ทำให้ลืมเวลาที่ต้องนั่งรอต่อครื่องไปได้เหมือนกัน
ฉันเดิน ลากกระเป๋า ไปรอบๆ อีกครั้ง ออกกำลังขา พยามยามยืนให้มาก
เพราะต้องนั่งอยู่กับที่อีก....... นาน เวลา 12.10 board time บอก Gate
ที่ฉันต้องไปรอขึ้นเครื่อง ตรงเวลาดี
Gate 25 เมื่อเดินมาถึงก็ดูรายละเอียด ในกระดาษที่ print จาก email
Depart 1.00pm London(LHR) Jet Airways
Arrive 3.35pm. Ottawa(YOW) Flight5089
Economy/Coach Class, Boeing 767-300 7 Hr 35 Min
ข้อมูลสุดท้ายที่อยู่ในตั๋ว ตอนที่ Check in ต้องใช้บริการ
ของ Air Canada AC0889V ไม่ใช่ Jet airways เหมือน 2 flight ที่ผ่านมา
ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ไปถึง Ottawa ก็แล้วกัน ฉันได้นั่งที่ 14A
ช่วงหน้า ติดกับหน้าต่าง

ภาพแรก บนท้องฟ้า จาก London to Ottawa

ภาพที่สอง ด้วยฝีมือตัวเอง

ภาพที่สาม


หลังจากเก็บภาพที่เห็น ที่นั่งเห็นวิวทิวทัศน์ดีมาก แต่ฉันก็หลับเสียเป็นส่วนมาก
เพราะเวลานี้ ที่เมืองไทยเป็นช่วงกลางดึก ที่นี่เป็นตอนบ่าย คนอื่นๆในเครื่องบิน
เขาไม่หลับ ทำงานใน Labtop อ่านหนังสือ ฟังเพลง กินอาหารว่าง
และเสียงเด็กๆ ทารก ร้องให้ตลอดเวลา

ถึงสนามบิน Ottawa ตรงเวลา กว่าจะได้ออกมาข้างนอก ฉันต้องถูกสัมภาษณ์มากเป็นพิเศษ
เพราะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ คำถามแรก คือ Can you speak english ?
ฉันตอบ a little เอาไว้ก่อน แล้วค่อยถามค่อยตอบไป
ที่สำคัญคือฉัน ถือเอกสาร Expedia Travel Confirmation
และ สำเนาเอกสารพาสปอร์ตของคุณ Jeff พร้อมเบอร์โทรศัพท์
รวมทั้งเอกสารส่วนตัวของฉันด้วย เจ้าหน้าที่ บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับตัวฉันได้ง่ายขึ้น
ถ้าคอยฟังคำตอบจากฉันอย่างเดียว เสียเวลามากกว่าจะเข้าใจกันได้
และโชคดีฉันไม่ถูกค้นกระเป๋าอีกครั้ง เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ฉันผ่านออกไปได้
แสนจะดีใจ เมื่อได้เห็นคุณJeff มายืนคอยรับ jeff บอกว่าคอยตั้งนาน
จน flight อื่นที่มาตามหลัง คนก็ออกมามาหมดแล้ว ฉันบอกว่า
คนอื่นไม่ได้สัมภาษณ์พิเศษเหมือนกับฉัน ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ 3 steps จึงออกมาได้
คุณ Jeff พาไปกินผัดไทยทะเล กับก๋ยวเตี๋ยวทะเล ที่ร้านอาหารญวน ใน China Town
อย่างละ 11.99 $ ( ประมาณ 350 บาท) เพราะเย็นแล้ว จะได้กลับมาพักผ่อน
อย่างเต็มที่
สวัสดี การเดินทางบนเที่ยวบิน ที่ยาวนาน อยู่บนเครื่องทั้งหมด 21 ชั่วโมง 30 นาที
พักรอเปลี่ยนเครื่องในสนามบิน รวม 8 ชั่วโมง

Followers