12/15/2012

ใบไม้ร่วงที่ White mountain USA.

ฤดูใบไม้ร่วงที่ White mountain USA.
 White Mountain  ป่าสงวนแห่งชาติแห่งนี้
เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
ในการเยี่ยมชม ช่วงเวลาของปีที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง
เป็นช่วงที่ดีที่สุดที่จะได้เห็นหลากหลายทิวทัศน์
                           เราออกเดินทางจากเมือง ออตตาวา ประเทศคานาดา
                           ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในช่วงเย็น ฉันก็ต้องถูกสัมภาษณ์
                           และสแกนนิ้วมืออีกครั้ง จึงได้กระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆ
                           ติดไว้กับ พาสสปอร์ตมีหมายเลขอนุญาตให้เข้า USA.
                           ได้ 3 เดือน  เมื่อครบ 3 เดือนก็ต้องถูกสัมภาษณ์ แบบนี้อีก
แล้วเราก็เดินทางต่อจนถึงเมือง Plattsburgh
รัฐนิวยอร์ค  ระยะทาง  227  กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางด้วยรถสปอร์ตคันเล็กของเรา
ประมาณ  3  ชั่วโมง
                             เราพักค้างคืนที่ เมือง Plattsburgh

 
                          เช้า เราออกเดินทางต่อจากเมือง  Plattsburgh  มุ่งสู่ White mountain
                       เทือกเขาสีขาว  โดยอาศัยแผนที่จาก google



                                ก่อนออกเดินทาง  รับประทานอาหารเช้าที่ Mc Donald
                     แต่เก็บภาพร้านอาหารตรงข้ามไว้  ออกแบบสวยดี เป็นร้านขายเสต๊ก
                     เริ่มขายตอนเที่ยง



                                  เพื่อย่นระยะทางเราต้องใช้บริการเรือข้ามฝาก จะช่วยย่นย่อ
                         ระยะทางได้มากโข  ชมทิวทัศน์ในทะเลสาบ แชมเปนส์ ( Lake Champlain)
                         ไปในตัว


                              บนเรือข้ามฝาก Lake Champlain  เขามีเรือ 3  ลำ รับส่งผู้โดยสาร
                        กลับไปกลับมา  จับภาพเรือที่กำลังสวนทางกัน ได้ทันท่วงที 

                          ขึ้นฝั่งแล้ว ต้นไม้ไร้ใบริมถนนจากท่าเรือเข้าสู่แผ่นดินใหญ่
                         ดูสวยงาม และโดดเดี่ยว ฤดูหนาว มีหิมะตก ยิ่งมีบรรยากาศ
                         โดดเดี่ยวกว่านี้


                          ส่วนหนึ่งของเส้นทาง South 89  ไปBurlington ขับรถไปสักระยะหนึ่ง
                          ก็เข้าไปในตัวเมือง


                           ผ่านเมืองเล็กๆ  โบสถ์ประจำเมือง   ด้านหน้ามีต้นไม้ที่บ่งบอกฤดูกาล
                        ใบไม้ร่วง  สวยงาม  ผ่านตึกรามบ้านช่อง แล้วก็ผ่านออกสู่ธรรมชาติ
                        อีกครั้ง



                         เข้าสู่เทือกเขา white mountain  ขับรถ วกไปวนมา  แล้วก็มาถึง
                        จุดหมายปลายทาง



                               ท่ามกลางหุบเขา และบนยอดเขา
                               White Mountain  national  forest


                          RIVERGREEN RESORT HOTEL
                          จองไว้ตั้งแต่อยู่ที่บ้าน  คนที่นี่เขามีแผนการดำรงชีวิตตลอดเวลา
                         จะไปไหนมาไหน  ต้องคิดล่วงหน้าไว้ วางแผนเดินทาง  จองห้องพัก
                         ติดต่อประสานงาน ใช้ internet และโทรศัพท์อย่างมีประโยชน์
                         มีคุณค่า


ที่หน้ารีสอร์ส  มีต้นไม้ใหญ่สองต้น  มีใบสีเหลืองทอง กำลังร่วงหล่น
วันที่ฉันเข้าพักยังมีใบไม้ ค่อยๆ ปลิวร่อนไปตามสายลม  
และหล่นเกลื่อนที่ใต้ต้นของมัน 
เมื่อวันที่ฉันเดินทางกลับ  ใบไม้ก็ร่วงหล่นหมดต้นพอดี




อดไม่ได้ที่จะไปยืนใต้ต้นไม้สีเหลืองทอง




การเข้าพักโรงแรมที่นี่ไม่ไเหมือนที่เมืองไทยบ้านเรานะ
เราต้องช่วยตัวเองทุกอย่าง เขาไม่มีพนักงานคอยบริการยกกระเป๋า
จะมีคนนั่งที่เคาเตอร์ รับลูกค้าอยู่คนเดียว
รับกุญแจห้องแล้วก็เข็นรถมาที่ห้องพัก


ห้องพักน่าอยู่มากเป็นลักษณะ คอนโดของคนมีเงินซื้อทิ้งไว้
แล้วเอามาทำเป็น รีสอร์สแบ่งห้องให้เช่า  จัดไว้เหมือนอยู่บ้านเล็กๆ
มีทุกอย่างครบถ้วน  ห้องครัวพร้อมสรรพ  โต๊ะรับประทานอาหาร
โซฟา  ที่นอนเก็บติดผนังได้เวลาจะนอนค่อยเอาออกจากผนังมานอน
ตู้โชว์จัดไว้น่ารัก  ประทับใจมาก


จัดสิ่งของเสร็จแล้ว เราก้ออกสำรวจพื้นที่ 
ร้านค้า แหล่งบันเทิง บริเวณเดินเล่น ออฟฟิตของทางราชการ
ยามเย็น ใกล้จะค่ำ เราก็ออกเดินเล่น ชมเมืองที่เหมือนจะเริ่มเงียบสงบ


เช้าวันใหม่  เราขับรถไปยังอีกเมืองหนึ่ง ไม่ไกลนัก 
จุดประสงค์เพื่อ shopping  อย่างเดียว













10/23/2012

แคมป์ที่ อัปเปอร์ แคนาดา


Park of the St.Lawrence Canada

            St.Lawrence River มีหมู่เกาะมากมายเรียงรายอยู่เป็น 1000 เกาะ เราตัดสินใจไปพักผ่อนที่  Upper Canada Migratory Bird Sanctuary Camp ground. ที่นี่เป็นแหล่งรวมของหมู่นกอพยพของ แคนาดา ครอบคลุมที่ดินทีอยู่ของนก 9,000 ไร่  มีนกกว่า 200 ชนิด
            สถานที่นี้ ก่อตั้งขึ้น ในปี 1961  ในสวนสาธารณะ โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับวิหารเซนต์ลอว์เรน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าชมนก และตั้ง Camp  พักผ่อนมากมาย  ระยะทางจากเส้นทางถนนสายหลัก เข้าไป 8 km จะมีเส้นทางเดินป่า  เส้นทางไปเล่นสกี  ค่ายพักแรม  พายเรือแคนู
และมีโปรแกรมการศึกษาธรรมชาติกลางแจ้ง และกิจกรรมพิเศษ ของลูกเสือ

   




 ข้อมูลที่ได้จาก office  รายละเอียดของสถานที่



                     ที่หน้า office  ฉันไปติดต่อในตอนเช้า เมื่อคืนมาถึงดึกเกินไป จึงเข้าไปที่ Campsite 
และพักผ่อน มีสถานที่สำหรับ motor home ตั้ง camp เพราะจองผ่าน website ไว้ล่วงหน้า  
                     เช้านี้ ฉันซื้อไม้สำหรับก่อกองไฟ 2 ถุง  ( ถุงละ 5 $) เพื่อสร้างบรรยากาศรอบกองไฟ
อากาศมันหนาวเย็นและลมพัดแรง  จำเป็นต้องมีกองไฟเมื่อมีกิจกรรมอยู่นอกตัวรถ  ในรถอบอุ่น
เพราะมี heather    
                    



ห่านและนกเป็ดน้ำ หลากหลายนับไม่ถ้วน บินขึ้นลงเป็นฝูง
เจ้าหน้าที่ให้อาหารในช่วงบ่าย  นกจะบินกลับมาที่นี่มากในช่วงนั้น 
คนก็จะพากันมาชมนก   บางคนมาชมและเดินออกกำลังกายแล้วกลับบ้าน ไม่ได้ค้างคืน  


ฝีมือถ่ายภาพ ของฉัน ไม่ดีนัก แต่ก็ภูมิใจ
ที่ได้นำเสนอภาพ 


หน้า Campsite มีสมาชิกมาอยู่ก่อนเรา


เดินชมธรรมชาติ ต้นไม้เปลี่ยนสี มีสีเหลือง สีแดง สีน้ำตาล สีเขียว คละกันไป
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่สวยงามมาก 


มุมมองนี้ เห็นอาคารที่ใช้เป็นส่วนรวม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
มีน้ำอุ่น ตลอดเวลา น้ำไหลแรง  ห้องน้ำสะอาดมาก  แต่ส่วนมากจะอาบน้ำใน รถ Motor home 



ญาติๆ พี่สาวของเรา เดินจากเมืองที่อยู่ไกล้เคียงเช่น Kingston และ South Mountain Canada
เพื่อมาร่วมกิจกรรม รับประทานอาหารร่วมกัน  




 เดินชมชายหาดซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้ร่วง 


ความสวยงามของ St.Lawrence River  ซึ่งกว้างใหญ่ 
อยู่ระหว่างประเทศแคนาดาและประเทศอเมริกา 


 พี่สาวแสนดี ทำ Cake เล็กๆ มาให้ พร้อมการ์ดแสดงความยินดีกับเรา 
ในวาระที่ครบรอบวันแต่งงาน
รู้สึกประทับใจและขอบคุณ ความรู้สึกของญาติๆ ที่มอบให้กับเรา


 พี่สาวที่เกษียณราชการแล้วและหลานสาวของเธอ หลบลมเย็นมานั่งในรถ 
แล้วเราทุกคนก็ตามขึ้นมา   ดื่มกาแฟและพูดคุย




 พ่อครัวประจำ Campsite  ทำ BBQ และ แฮมเบอร์เกอร์


 หลานสาว อายุ 4 เดือน 
อบอุ่นอยู่ในรถเข็น ภายใต้ผ้าห่มนวมหลายผืน



ชอบป้ายนี้จังเลย โปรดระวัง เต่า


 เช้าวันต่อมา เราก็เดินทางกลับ เมืองออตตาวา แคนาดา
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง



10/19/2012

เวลเลสลีย์ State Park, USA.


WELLESLEY ISLAND  STATE  PARK, USA.

   Wellesley Island State Park  เป็นสวนสาธารณะ  ตั้งอยู่ในเมือง  Orleans  รัฐ New York



เวลเลสลีย์ Island State Park มีความซับซ้อนการตั้งแคมป์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคพันเกาะ
มีที่รกร้างว่างเปล่าตั้งอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำเซนต์ Lawrence ซึ่งจะสามารถเข้าถึงได้ด้วย
การเดินเท้าหรือเรือ ภายในชนบทแห่งนี้เป็นสวรรค์ของการตกปลา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีปลาชนิดหนึ่งสำหรับตกได้ในฤดูใบไม้ร่วง
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว.   อุทยานมีบริการเต็มรูปแบบมารีน่าและเรือ
มีหาดทราย.  และสถานที่อาบแดด. มีสถานที่นันทนาการ  และสนามกอล์ฟ 9 หลุมบนเกาะ

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของอุทยานเป็นศูนย์ Minna ธรรมชาติ
รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่อยู่อาศัยแตกต่างกันเช่น พื้นที่ชุ่มน้ำป่า 3 กิโลเมตรจากชายฝั่ง
เปิดเส้นทางสำหรับการเดิน ป่า, เล่นสกีข้ามประเทศและธรรมชาติ
การศึกษา ศูนย์ธรรมชาติให้โปรแกรมการศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจสำหรับทุกเพศทุกวัย 


ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม  เราออกเดินทางมาตามเส้นทาง ในแผนที  ด้วยรถมอเตอร์โฮมส่วนตัว
จากข้อมูลใน website บอกว่า
    Directions :   Take Route  81  to Exit  51,   the thousand  Islands International Bridge. 
Cross the bridge to the park  entrance.  


ถึงแล้ว  ป้ายบอกทางแล้วเข้า  Wellesley  Island   State Park


บรรยากาศสวยงาม เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน


ภูมิศาสตร์:

เลสลีย์ Island State Park ตั้งอยู่บนเกาะเลสลีย์ในเซนต์ Lawrence แม่น้ำ มันเป็นส่วนหนึ่ง
ของเมืองออร์ลีนในเจฟเฟอร์สันเคาน์ตี้

Recreation:

พาร์คมีกิจกรรมจากชายหาดในฤดูร้อนว่ายน้ำและตกปลา
เล่นสกีน้ำแข็งข้ามประเทศและ snowshoeing ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลิน
กับกิจกรรมในช่วงฤดู​​ร้อนหลายอย่างเช่น; การเล่นสกีขี่จักรยาน,
พายเรือเจ็ทและน้ำตกปลาเล่นกอล์ฟและการเดินป่า,
 ไม่มีอุปกรณ์ให้เช่าที่สวนสาธารณะ

ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มีส่วนร่วมในการจัดสวนกิจกรรมนันทนาการและปิกนิก
ศูนย์ธรรมชาติมีเส้นทางสำหรับคนพิการสามารถเข้าถึงที่มีการเข้าถึงตารางปิกนิก
และบ้านผีเสื้อตามฤดูกาล

สิ่งอำนวยความสะดวก:

สวนมีชายหาด, ท่าจอดเรือ, เว็บไซต์เรือ, พายเรือ, เรือ dockage, ฝักบัว, 
ปะปนสถานีทิ้งฝักบัว, สัมปทานอาหาร, สนามกอล์ฟ, เส้นทางศึกษาธรรมชาติ, 
พิพิธภัณฑ์และศูนย์นักท่องเที่ยว, ตารางปิกนิก, สนามเด็กเล่น, และสนามเด็กเล่น
สถานที่ซักรีดนอกจากนี้ยังมีที่เก็บค่ายสวนสาธารณะมีสิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับตั้งแคมป์กลุ่ม

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง:

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงรวมถึง Point State เรือแคนูปิคนิค-Park, หญ้า Point State Park,
Dewolf Point State Park, Waterson Point State Park, และเลสลีย์สนาม Island State Golf Park



          Payment for  Camp   เราจ่ายค่าตั้ง Camp  ใน Park   81 $ (  2,430  บาท )  ใช้เวลา 2 คืน
เข้าไปถึงค่ำวันศุกร์ และออกเช้าวันอาทิตย์  บางคนก็ใช้เต้นส์ผ้าใบ  สำหรับนอน  บางคนก็เช่าเคบิน หรือกระท่อมเล็กๆ




         วันที่มาเข้า Camp ground  อากาศไม่หนาวนัก ประมาณ 10C   แต่เราก่อไฟ เพราะชอบ
มีไฟใน Camp  อีกทั้งไกล้ค่ำแล้ว 




                  พ่อครัวประจำ Camp  คุณ Jeffrey  make BBQ  for  dinner.ที่นี่เขาจะดื่มกาแฟ
 บ่อยครั้งต่อวัน ฉันก็เลยดื่มเหมือนกัน  แต่เป็นกาแฟที่ติดตัวมาจาก Thailand  ส่วนอาหาร เขาทำอะไร
 ก็ต้องกินกับเขา   นานครั้งถึงจะได้รับประทานอาหารไทย


         อาคารสำหรับจัดกิจจกรรมสังสรรค์ ของผู้เข้า Camp  ทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่่  คล้ายหอประชุม
แต่อาคารที่นี่ไม่ได้เปิดโล่ง  เมืองมันหนาว ต้องมี heather  ในอาคารตลอดเวลา


            ตอนเช้าก่อนออกจาก Camp ground  เข้าไปดูส่วนนี้ของ Park   มีท่าเรือ และเรือบริการ
แต่วันนี้ฝนตกเล็กน้อย  ทำให้อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม  ฉันเพิยงได้เก็บภาพสวยงาม ไว้นิดหน่อย  ไม่ได้ลงไปที่ท่าน้ำ                  


              แต่ก็อดทีจะลงจากรถไปเก็บภาพตัวเองไว้ด้วยเป็นหลักฐาน ว่าได้มาจริงครั้งหนึ่งในชีวิต
        


                  แล้วก็ถึงเวลา เดินทางกลับ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย  แต่มีบรรยากาศที่อบอุ่น
     ในรถ Motor home  คันเล็กของเรา

Followers