8/16/2011
Virginia beach
Sunday 24 April 2011
รถ Motor home คันเล็กๆ ของเรา ออกจากบ้านคุณ Andy ประมาณ 6 โมงเย็น
ยังมีแสงแดดรำไร อากาศดีมาก ไม่หนาว
มาถึงด่านเข้า USA. ก็รับการสัมภาษณ์ จากเจ้าหน้าที่ผู้หญิง และ สแกนนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว อีกครั้ง
แล้วเดินทางต่อ อีก 2 ชั่วโมง ประมาณเกือบ 4 ทุ่ม ก็เข้าพักผ่อนที่ โรงแรมเล็กๆ ชื่อ Microtel
ฝนตกเบาๆ ตลอดทางที่ผ่านมา เหนื่อย และหลับสนิท
เช้าตรู่ออกเดินทาง ขับรถไปเรื่อยๆ มีฝนตกโปรยปราย มืดครึ้ม
แต่อากาศคงเปิดในไม่ช้านี้
Monday 25 April 2011
เดินทางต่อ มาเรื่อยๆ หัดอ่านแผนที่ไปด้วย
จนกระทั่งค่ำมืดที่ Washington DC ไม่ได้เข้าไปเที่ยวใน ตัวเมืองหรอก
อยู่รอบนอก ถนน high way เข้าพักที่ โรงแรม Comfort Inn โรงแรมขนาดกลาง
ดีหน่อย มี wi fi ให้ใช้ด้วย ตอนเช้ารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม แบบง่ายๆ
แล้วเราก็เดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่ Virginia Beach
จะไปเส้นทางไหน ก็ต้องจ่ายค่าบริการใช้ถนน
บางครั้งก็ต้องลอดอุโมงค์ลอดผ่านใต้ท้องทะเล นึกกลัวอุโมงค์แตกเหมือนในหนังจังเลย
บางช่วงก็ขับรถวิ่งบนสะพานที่ท่าเรือ ช่วงสั้นๆ
ก่อนจะถึง Campground ที่พัก เที่ยงแล้ว แวะรับประทานอาหารไทย
ที่ Williamsburg
แวะเติมน้ำมัน เติมแล้วเติมอีก เดินทางมาไกลแสนไกล
ถนนหนทาง ป่าไม้ริมทางคล้ายบ้านเรา Thailand คิดถึงบ้านขึ้นมาทันที
รถคันเล็ก วิ่งนำหน้า คุณเจฟ ชอบมาก เรียกหากล้องบันทึกภาพเสียงดัง
ไม่ยอมขับรถแซง มีความสุขที่ได้มองดูรถคันเล็ก
ในที่สุด เราก็มาถึง Verginia
ต้องขับรถผ่านย่านใจกลางเมืองก่อนที่จะไปถึง Campground
ขับรถวนไปวนมาหลายรอบ ฉันดูแผนที่ไม่เก่ง คนขับรถก็พยายาม
มีหนุ่มๆปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามชายหาด
ร้านค้าขายสินค้าที่ระลึก และนักท่องเที่ยวทีจะไปชายหาด
ติดต่อเข้าพักที่ campground ได้ที่พักสีชมภูหมายเลข 37
ดีหน่อยไม่ไกลจากห้องอาบน้ำซักเท่าไร ห้องน้ำในรถก็มีนะ
แต่แท้งน้ำมันเล็กจุน้ำร้อนน้ำเย็นไม่ค่อยเยอะ ใช้น้ำเวลาอาบไม่จุใจเท่าไร
อยู่ที่ทวีปอเมริกาเหนือ สิ่งที่ชอบที่สุดในชีวิตประจำวันคือ อาบน้ำอุ่นใช้เวลาเป็นชั่วโมง
นี่คือตำแหน่งที่พักของเรา สีชมภู H 37
สภาพอากาศแตกต่างจากการเข้า Campground ครั้งก่อนเพราะครั้งก่อนอากาศ เย็นจัด
ลมก็แรง แต่ครั้งนี้อากาศสบายๆ คล้ายภาคเหนือของเมืองไทย
แต่ฉันก็ก่อไฟที่Camp เพราะต้องทำอาหาร dinner คุณเจฟเป็นพ่อครัวเหมือนเดิม
ป่าไม้ชายหาดที่นี่ต้นสูงใหญ่ ตรงนี้เทศบาลของ Virginia คงอนุรักษ์ธรรมชาติไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตั้ง Campground เพราะส่วนที่ฉันเห็นเป็นย่านโรงแรมติดชายหาดเรียงเป็นแถวติดกันก็ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ช่วงนี้มีนักท่องเทียวน้อย ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยวแต่จะมีมากในช่วง มิถุนายน และ กรกฎาคม เพราะเป็นช่วง Vacation และก็จะมีนักท่องเที่ยวเยอะอีกครั้งเมื่อตรงกับช่วงวันหยุดสำคัญ
คืนแรกนอนหลับสนิทใน Motor home
Tuesday 26 April 2011
วันนี้เราทานอาหารเช้าที่ใจกลางเมือง ใกล้ชายหาดติดกับโรงแรมใหญ่ทั้งหลาย
ซื้อเสื้อสีแดงจากร้านอาหารเป็นที่ระลึกที่ได้มาเที่ยวที่นี่
มีฝนตกพรำๆ นิดหน่อย 30 นาที หลังจากนั้นก็ไม่มี เราก็ออกเดินเที่ยว ดูทิวทัศน์ ห้างร้านโรงแรมที่เรียงเป็นแถวยาวเหยียด และดูนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป อเมริกาเอเซีย และ อาฟริกา
We are hold our hand and walk around.
เดินไปเรื่อยจนกระทั่งบ่ายๆ แวะทาน
Ice cream cone โชคดีเจอนักเรียนไทย 5 คน มาทำงานพิเศษ ที่ร้านขายไอศกรีม มาอยู่ได้ 2 เดือนแล้ว อีก 1 เดือนก็จะกลับ คงเป็นนักศึกษา ทราบว่าอยู่พิษณุโลก ฉันได้พูดคุยกับสาวจากพิษณุโลก อีกครั้งแล้วซิ
ก่อนกลับ Camp เราแวะซื้ออาหารและเสื้อผ้าใส่เล่นๆ สำหรับ แอ๊ดดี้ และคุณเจฟซื้อของฝากเพื่อนๆของฉันเยอะแยะ
หลังจาก dinner ดื่มเบียร์ ข้างกองไฟ ก็หลับสนิทจนกระทั่งสาย
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวกลับ Canada
8/15/2011
Family in Canada
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2011
ตื่นแต่เช้า ขนของขึ้นรถอีกครั้ง เมื่อวานนี้ อากาศค่อนข้างดี มีแสงแดด ไม่หนาวมากนัก
อีกทั้งเป็นวันหยุด ทุกบ้านออกมานอกบ้านและทำความสะอาดบ้าน แต่วันนี้อากาศไม่ดี
มีฝนตกพรำ ๆ ตั้งแต่เช้า เราไปรับคุณแม่Pat ที่Condo ท่านเตรียมเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว
ท่านดีใจที่จะได้ไปที่ไหนๆ กับลูกหลาน
รำลึกถึงครอบครัวของฉันที่ประเทศไทย
ถ้าฉันย้อนอดีตได้ ฉันจะปฏิบัติตนเป็นลูกสาวที่ดีของคุณยายพัฒน์ ให้มากกว่าที่เคยเป็น
ถึงแม้จะยากแค้นแสนเข็ญในการดำรงชีวิต ไม่มีเงินทองใช้ .....แต่มีสิ่งที่สำคัญ
คือการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้มีความสุขในแต่ละวันที่อยู่ด้วยกัน
มาถึงวันนี้คุณยายพัฒน์ จำไม่ได้ว่าใครป็นใคร แต่พวกเราก็จะทำให้ดีที่สุด
ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องช่วยกันและทำให้ดีที่สุด
ในภาพคือคุณยายพัฒน์ ช่วงวันแม่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2550
อีกภาพแห่งความทรงจำ คุณยายพัฒน์ยังแข็งแรง มีความสดชื่น
เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ร่วมกิจกรรมในวันสงกรานต์
จากนั้นเราก็เริ่มออกเดินทาง ไป Kingston บ้านพี่สาวของคุณเจฟ คือคุณ Andy และคุณ Steve
มีลูกชาย Mac และภรรยา Terry และ Nalon หลานชาย อยู่บ้านวันนี้
บรรยากาศในบ้าน สนุกสนาน กับหลานชาย Nalon
อาหารว่างในวัน Easter day
โต๊ะรับประทานอาหาร เตรียมไว้ฉลอง Easter day
คุณพี่สาว Andy และ คุณน้องชาย Jeff กำลังช่วยกันเตรียมอาหาร
wow น่าอร่อย
คุณพี่ Andy มอบของฝากกลับมาใช้ที่ Orchid Apartment
ปิดท้ายด้วยรูป วัน Easter day 2010 ที่ฉันมาเที่ยว Canada ครั้งแรก
มีญาติพี่น้องมากมายหลายคน มาร่วมฉลองในวันนั้น
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ในช่วงบ่ายเราก็ออกเดินทางต่อเข้าไปใน America
จุดหมายของเราคือ Virginia Beach
ตื่นแต่เช้า ขนของขึ้นรถอีกครั้ง เมื่อวานนี้ อากาศค่อนข้างดี มีแสงแดด ไม่หนาวมากนัก
อีกทั้งเป็นวันหยุด ทุกบ้านออกมานอกบ้านและทำความสะอาดบ้าน แต่วันนี้อากาศไม่ดี
มีฝนตกพรำ ๆ ตั้งแต่เช้า เราไปรับคุณแม่Pat ที่Condo ท่านเตรียมเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว
ท่านดีใจที่จะได้ไปที่ไหนๆ กับลูกหลาน
รำลึกถึงครอบครัวของฉันที่ประเทศไทย
ถ้าฉันย้อนอดีตได้ ฉันจะปฏิบัติตนเป็นลูกสาวที่ดีของคุณยายพัฒน์ ให้มากกว่าที่เคยเป็น
ถึงแม้จะยากแค้นแสนเข็ญในการดำรงชีวิต ไม่มีเงินทองใช้ .....แต่มีสิ่งที่สำคัญ
คือการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้มีความสุขในแต่ละวันที่อยู่ด้วยกัน
มาถึงวันนี้คุณยายพัฒน์ จำไม่ได้ว่าใครป็นใคร แต่พวกเราก็จะทำให้ดีที่สุด
ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องช่วยกันและทำให้ดีที่สุด
ในภาพคือคุณยายพัฒน์ ช่วงวันแม่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2550
อีกภาพแห่งความทรงจำ คุณยายพัฒน์ยังแข็งแรง มีความสดชื่น
เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ร่วมกิจกรรมในวันสงกรานต์
จากนั้นเราก็เริ่มออกเดินทาง ไป Kingston บ้านพี่สาวของคุณเจฟ คือคุณ Andy และคุณ Steve
มีลูกชาย Mac และภรรยา Terry และ Nalon หลานชาย อยู่บ้านวันนี้
บรรยากาศในบ้าน สนุกสนาน กับหลานชาย Nalon
อาหารว่างในวัน Easter day
โต๊ะรับประทานอาหาร เตรียมไว้ฉลอง Easter day
คุณพี่สาว Andy และ คุณน้องชาย Jeff กำลังช่วยกันเตรียมอาหาร
wow น่าอร่อย
คุณพี่ Andy มอบของฝากกลับมาใช้ที่ Orchid Apartment
ปิดท้ายด้วยรูป วัน Easter day 2010 ที่ฉันมาเที่ยว Canada ครั้งแรก
มีญาติพี่น้องมากมายหลายคน มาร่วมฉลองในวันนั้น
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ในช่วงบ่ายเราก็ออกเดินทางต่อเข้าไปใน America
จุดหมายของเราคือ Virginia Beach
8/14/2011
Gibbons Family Fram
คุณAndy และคุณGain พี่สาวสองคนของคุณเจฟ และคุณเจฟ จะพาคุณแม่Pat และฉัน ไปรับประทานอาหารเช้า
ที่หอประชุมของโบสถ์ St.Thomas Anglican church อาหารเช้าเป็นเค้ก ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิล
มีฮ๊อตดอก น้ำส้มคั้น หรือน้ำแอปเปิ้ล หรือกาแฟ
สามพี่น้อง ตอนนี้เป็น สามนามสกุล เพราะคุณพี่สาวทั้งสองมีครอบครัวแล้ว
หลังจากนั้นก็จะพากันเข้าไปชมโรงงานผลิตน้ำเชื่อมที่ผลิต จากต้น Maple
ซึ่งเจ้าของโรงงานเป็นชาวบ้านในท้องถิ่น เป็นโรงงานขนาดเล็ก คนในครอบครัว
ช่วยกันทำงาน เป็นโรงงานเก่าแก่จากรุ่นปู่ย่า ตาขาย ตกทอดมาถึงรุ่นหลาน
แต่มีผลผลิตส่งออกขายหลายรัฐ บ้านเราผลิตน้ำ้ตาล น้ำเชื่อมจากต้นอ้อย
ภายในโรงงาน กระบวนการผลิต คล้ายกับการกรีดยางจากต้นยางในบ้านเรา
แล้วเอายางที่กรีดได้มาผ่าน ขั้นตอนต่างๆ
จนสุดท้ายก็ได้เป็นน้ำเชื่อมออกมา บรรจุในแกลลอนแล้วส่งของขายตามที่ได้รับการสั่งซื้อ
โรงงานนี้ได้จัดสถานที่สำหรับให้ผู้เยี่ยมชมศึกษาดูงาน มีบอร์ดอธิบาย มีรูปภาพ
มีอุปกรณ์การผลิตรุ่นเก่าๆ สมัยคุณปู่มาให้ดู
ตัวอย่างต้นเมเปิ้ล ที่มีอายุยาวนาน จะเห็นว่าเขาปักช่วงขนาดของต้นในแต่ละปี
ตัวอย่าง ต้นเมเปิ้ลที่เตรียมพร้อมรอการกรีดเอาน้ำยางมาผลิตเป็นน้ำเชื่อม มีภาชนะห้อยเต็มต้น
มีนำ้เชื่อมเปิ้ลที่ผลิตออกมาแล้ว ให้ชิม มีรสหวานขนาดแตกต่างกัน
ภาพข่าว เมื่อครั้งที่เกิดพายุครั้งใหญ่ ในปี 1998 ที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
แก่ผู้ผลิตน้ำเชื่อมจากต้นเมเปิ้ล
หลังจากนั้น เราก็แยกย้ายกันกลับบ้านพัก คุณแม่ pat และคุณพี่สาวแยกไป
shopping สินค้า otop ของคนในท้องถิ่นที่วางขายริมถนน และก็ยังมีสินค้าที่เปิดท้ายรถ
เหมือนๆ กับบ้านเราด้วย
ตัวเมืองที่เราเดินทางผ่านเพื่อกลับบ้าน เก็บภาพจากบนรถที่นั่ง
ไม่สวยเท่าไรกระจกหน้ารถ ไม่สะอาด เพราะบางช่วงมีฝนโปรยปราย
จบแค่นี้ก่อน นะคะ หายเหนื่อยแล้วจะเล่าเรื่องอื่นๆ ต่อไป
8/13/2011
Home in Ottawa April 2011
ถึงป้ายบอกถนน ทางเลี้ยวเข้าเส้นทางที่บ้านบ้าน ของเรา
ถนนเส้นนี้ ลาดชันลงไป มีบ้านหลังใหญ่ๆ ทั้งสองข้างทาง แต่ส่วนมาก
จะแบ่งห้องให้เช่า เป็นห้องชุด มีห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว และห้องน้ำ
เจ้าของบ้านอยู่เองค่อนข้างน้อย
เป็นครั้งที่สอง ที่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ รู้สึกเป็นบ้านของตัวเองจริงๆ
ก็ฉันกำลังใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน และก็เป็นความฝันที่เป็นจริง
ต้นเดือนเมษายน ฤดูหนาวกำลังจะหมดไป วันที่ฉันมาถึงยังมีหิมะ
กองอยู่ข้างทางนิดหน่อย ยังละลายไม่หมด คุณเจฟ บอกว่า
เป็นหิมะเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าหิมะจะเริ่มหมดไป แต่ลมก็ยังพัดแรงจนแสบตา ต้องใส่แว่นตากันแดด กันลม
หนาวลม จับใจ ก็ต้องอยู่แต่ภายในบ้าน เปิด heather เหมือนเดิม ทำงานในcomputer
และกินขนม กาแฟ อีกทั้งผลไม้ เตรียมไว้สำหรับตัวเอง
รอจนถึงตอนเย็น คุณเจฟกลับจากที่ทำงาน จึงได้เปลี่ยนเป็นมาพักผ่อนในโรงรถ
ซึ่งคุณเจฟใช้เป็นสถานที่ ตกแต่งรถแข่ง จะเอารถรุ่นเก่าๆ มาตกแต่งแล้วเอาไปแข่ง
ในสนามแข่งรถ ซึ่งคุณเจฟและเพื่อนชอบเป็นชีวิตและจิตใจ
ฉันก็เข้ามาเดินชมนั่นชมนี่ไปตามเรื่อง ไม่ความรู้เรื่องรถสักนิด แต่อากาศในโรงรถ
อบอุ่นดี ข้างนอกเย็นมาก
ภาพติดฝาผนัง เป็นภาพที่คุณเจฟกำลังเข้าสนามแข่งรถ ดูดีเชียวนะ
คุณ BOB เพื่อนของคุณJeff ที่ชอบตกแต่งรถและแข่งรถ เป็นงานอดิเรกเหมือนกัน
ชอบที่จะมาตกแต่งรถด้วยกัน ช่วยกันบ่อยครั้งหลังจากเลิกงาน
รถคันโปรดของคุณBOB
สองหนุ่ม สุดหล่อ ช่วยกันเอารถแข่ง ขึ้นรถตู้ (รถแข่งขับบนถนนไม่ได้)
สองหนุ่ม ช่วยกันทำงาน ฉันเป็นฝ่ายเก็บภาพ และทำเท่ห์ ไปเรื่อยๆ
บ้านหลังนี้ ฉันเคยเขียนบทความไว้ครั้งก่อน ในปีที่แล้ว ชื่อว่า
"บ้านน้อยหลังนี้สุขีเสียจริง" ค่ะ ลองอ่านดูนะคะ
http://jarunyawong.blogspot.com/2010/05/blog-post.html
Subscribe to:
Posts (Atom)